กระแสการทำงานจากที่ไหนก็ได้ หรือทำงานจากที่บ้าน ซึ่งกลายเป็นแนวทางบังคับไปโดยปริยายในช่วงของการล็อคดาวน์ ทำให้บรรดาเมืองเล็กๆ ในสหรัฐ เล็งเห็นโอกาส และ เสนอเงินให้คนทำงานย้ายไปปักหลัก หวังปลุกเศรษฐกิจท้องถิ่นคึกคัก
เมืองเล็กๆ หลายเมืองในสหรัฐ พากันเสนอแรงจูงใจในรูปของเงินสด เพิ่มเติมจากข้อดีของการใช้ชีวิตในเมืองเล็ก ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพที่ถูก บ้านพักราคาไม่แพง และรถไม่ติด หวังดึงคนทำงานให้ไปลงหลักปักฐาน ท่ามกลางกระแสการทำงานจากที่ไหนก็ได้ ซึ่งบูมสุดๆ ในช่วงโควิด-19 ระบาด
เมืองซาวานาห์ รัฐจอร์เจีย ประกาศว่า ถ้าบริษัทไฮเทคแห่งไหน เข้าไปเปิดออฟฟิศเล็กๆ ในเมือง จะได้รับค่าช่วยเหลือในการโยกย้ายสำหรับพนักงานแต่ละคนๆ ละ 2,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 60,000 บาท)
เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเศรษฐกิจ เมืองซาวานาห์ มองว่าการมีคนทำงานเข้าไปอาศัยอยู่ สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองเล็กๆ ได้ เพราะคนเหล่านี้จะซื้อบ้านและใช้จ่ายซื้อของต่างๆ เท่ากับอัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจของเมือง ทั้งยังอาจนำไปสู่การรวมกลุ่มของคนทำงานที่มีทักษะ-ความสามารถในระดับท้องถิ่น และท้ายที่สุดทางเมืองยังมีรายได้จากการเก็บภาษีด้วย
ในส่วนของคนทำงานเองนั้น ก็ดูเหมือนว่ากำลังต้องการมองหาหลักแหล่งใหม่ๆ การสำรวจความเห็นเมื่อเร็วๆ นี้พบว่าคนทำงานภาคไฮเทค 2 ใน 3 แถบย่านซานฟรานซิสโกเบย์แอเรีย พร้อมที่จะพิจารณาเรื่องการย้ายที่อยู่หากมีตัวเลือก
ขณะเดียวกัน บริษัทไฮเทคหลายรายในย่านเบย์แอเรีย ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ค กูเกิล ทวิตเตอร์ สแควร์ หรือคอยน์เบส ต่างประกาศว่ามีแผนการอนุญาตให้พนักงานจำนวนหนึ่ง ทำงานจากที่ไหนก็ได้
เมื่อบริษัทต่างๆ เสนอตัวเลือกของการทำงานจากที่ไหนก็ได้อย่างเป็นการถาวร ขณะที่คนทำงานเองก็อยากไปใช้ชีวิตอยู่นอกเมืองใหญ่กันมากขึ้น เมืองต่างๆ จึงพากันเสนอแรงจูงใจเพื่อดึงคนทำงาน
จริงๆ แล้ว หลายเมืองพยายามเสนอแรงจูงใจเพื่อดึงคนต่างถิ่นให้เข้าไปพักอาศัยมาพักหนึ่งแล้ว อย่างเมื่อปี 2561 ที่เมืองทัลซา รัฐโอกลาโฮมา จัดทำโปรแกรมให้เงินสด 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 300,000 บาท) แก่คนทำงาน 250 คนให้ย้ายเข้าไปอยู่ ส่วนเมื่อปีที่แล้ว รัฐเวอร์มอนต์, รัฐแอละแบมา และรัฐแคนซัส ต่างจัดทำโครงการคล้ายคลึงกันนี้ โดยเสนอเงินให้คนทำงานตั้งแต่ 5,000 ดอลลาร์ ไปจนถึง 15,000 ดอลลาร์
เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเศรษฐกิจรัฐแอละบามา บอกว่าตั้งแต่จัดทำโครงการนี้ ก็มีคนโทรศัพท์มาสอบถามพอสมควร แต่พอเกิดการระบาดของไวรัส ปรากฏว่าจำนวนผู้ที่โทรเข้าไปสอบถาม มีเพิ่มขึ้นมาก
เมื่อปีที่แล้ว ทางรัฐแอละแบมาให้เงิน 10,000 ดอลลาร์แก่คนทำงาน 10 คนที่ย้ายเข้าไปอยู่ โดยคัดเลือกจากผู้สมัครกว่า 200 คนจาก 33 รัฐ ส่วนปีนี้ได้งบมาสำหรับจูงใจคนทำงานอีก 25 คน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสาร เมืองโทพีกา รัฐแคนซัส ระบุว่าการลงทุนเสนอแรงจูงใจเพื่อดึงคนทำงาน ให้ผลกลับคืนมามากมาย ทั้งยังช่วยให้ชุมชนมีผู้ที่มีทักษะและมีความรู้เพิ่มมากขึ้นด้วย ทางเมืองได้จัดทำโครงการนี้เมื่อปีที่แล้ว และพอเห็นว่าโควิด-19 ทำให้รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไปทั่วประเทศ จึงตัดสินใจผลักดันโครงการอีกครั้งให้สอดรับกับกระแส “new normal”
เฟลกซ์จอบส์ ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มหางานที่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ระบุว่าส่วนประกอบต่างๆ เริ่มลงตัว โดยช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาการทำงานจากนอกออฟฟิศพุ่งขึ้นอย่างมาก และดำเนินไปในวงกว้าง ทั้งยังประสบความสำเร็จในภาพรวม
ผู้บริหารเฟลกซ์จอบส์มองว่า เมืองที่ประสบปัญหาประชากรลดจำนวนลง หรือธุรกิจที่เคยเป็นแหล่งจ้างงานหลัก ปิดตัวหรือย้ายออกไป สามารถสร้างความหลากหลายและปลุกเศรษฐกิจให้คึกคัก ด้วยการเสนอเงินให้คนทำงานย้ายเข้าไปอยู่ โดยเงินที่เสนอนั้น เป็นเงินที่จ่ายให้ก้อนเดียวหรือครั้งเดียว แต่ผลตอบแทนที่ได้รับ จะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
June 24, 2020 at 12:00AM
https://ift.tt/37XkMZN
ย้ายมาอยู่ด้วยกันสิ! หลายเมืองเสนอเงิน ดึงคนปักหลัก รับกระแสทำงานที่บ้าน - Businesstoday
https://ift.tt/2REt1Df
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ย้ายมาอยู่ด้วยกันสิ! หลายเมืองเสนอเงิน ดึงคนปักหลัก รับกระแสทำงานที่บ้าน - Businesstoday"
Post a Comment