Search

เปิดเมือง normal ได้เมื่อใด - สยามรัฐ

jogja-grade.blogspot.com

แสงไทย เค้าภูไทย

มีคำถามอยู่ในใจคนไทยทั้งประเทศในภาวะโควิด-19 ระบาดนี้ว่า จะเปิดเมืองคืนสู่สภาพ "ปกติ" ได้เมื่อใด

การที่ศบค.ตรียมปลดล็อกเฟส 4 ที่รวมถึงสถานศึกษา สถานเลี้ยงเด็ก สถานบริบาลผู้สูงวัย ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ เวทีคอนเสิร์ต การจัดอีเวนต์ อาบอบนวด สนามกีฬา โรงยิม สถานออกกำลังกาย ห้องประชุม จัดสัมนาอบรม ฯลฯนั้น

แม้สถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่พ้นระยะเสี่ยง แต่ก็พัฒนาดีขึ้นจนแทบจะเรียกได้ว่าสงบ โดยเฉพาะการระบาดภายในประเทศ พบว่าผู้ป่วยเพิ่มเป็น 0 มาเป็นสัปดาห์ๆแล้ว

ตามเป้าหมาย กำหนดสิ้นเดือนมิถุนายนนี้โดยยังมีบางส่วนที่มีความเปราะบางต่อการเป็นแหล่งแพร่เชื้อยังคงปิดต่อไป

ทั้งเพราะการแพร่ระบาดยังคงดำเนินอยู่ โดยเฉพาะจากกลุ่มคนไทยที่กลับมาจากต่างประเทศและชาวต่างชาตที่เดินทางเข้ามา

ส่วนในหมู่คนไทยในประเทศ แม้จะไม่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้ว แต่ก็วางใจไม่ได้

เพราะแม้แต่ผู้ที่หายป่วยแล้ว ก็อาจจะกลับมาป่วยได้อีก หรืออาจจะแพร่เชื้อได้เหตุจากเชื้อไวรัสตกค้าง

จีนพบการระบาดละลอกที่ 2 หลังสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้ป่วยในโรงพยาบาลและผู้ตายเป็นศูนย์ จนเปิดเมือง (reopen) ได้ว่า สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสตกค้าง

เชื้อตกค้างนี้ จะคงอยู่ในร่างกายผู้หายป่วยได้นานถึง 45 วัน กว่าสารภูมิต้านของร่างกาย( antibofy) จะกำจัดได้หมด

นั่นหมายความว่า ผู้ป่วยจะหายป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยเด็ดขาด จะต้องผ่านระยะเวลาระวังไข้กลับอีก 45 วัน

สำหรับบ้านเรา คงต้องรอจนกว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต ผู้ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เป็น 0 ทั้งหมด แล้วขยายไปอีก 45 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าการแพร่เชื้อสิ้นสุด ยุติแล้ว

ถ้านับวันที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มจะเป็น 0 ได้ทั้งในประเทศและที่มาจากต่างประเทศ น่าจะตกราวกลางเดือนกรกฎาคม

รอจนคนติดเชื้อคนสุดท้ายหายป่วยออกจากโรงพยาบาลก็น่าจะราวต้นถึงกลางเดือนสิงหาคม

กว่าจะครบกำหนดช่วงเวลาระวังไข้กลับ ก็ตกสิ้นเดือนกันยายน

เปิดเมืองทุกด้าน โดยเฉพาะรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศได้ก็น่าจะราวตุลาคม

เป็นการคาดคะเนที่ประเมินจากสถานการณ์ปัจจุบัน เท่่านั้น

องค์ประกอบอื่นๆยังต้องคำนึงถึงอีกหลายด้าน โดยเฉพาะเจ้าตัวไวรัสลึกลับที่ยังมีความลับให้ค้นหาอีกมาก

มันอาจจะกลายพันธุ์เหมือนกับที่มันกลายจากไวรัส MERS-CoV (2012)และ SARS - CoV(2003) มาถึง 7 สายพันธุ์ โดยตัวมันเองล่าสุดคือ SARS-CoV-2 อีกก็ได้

นอกจากนี้เมื่อมันเข้ามาอาลวาดในร่างกายคนแล้ว มันจะไม่หายสูญไปง่ายๆ จนกว่าจะตายไปพร้อมกับสังขารที่เป็นเจ้าบ้าน (host) ให้มัน

เชื่อว่า มันจะแอบไปเกาะอยู่ที่ RNA แล้วรอการฟื้นตัวเมื่อเจ้าของร่างที่มันสิงสู่อ่อนแอลง

มันก็จะกลับมาผงาด ออกมาทำสำเนา (replicate) ออกมาแจกจ่่ายกระจายไปยังเซลล์ข้างเคียง เหมือนครั้งที่มันแพร่เข้าสู่ร่างกายคนในครั้งแรก

เชื่ออีกว่า ระยะเวลาที่มันใช้สิงสู่ซ่อนเร้นหลบรอดจาก antibody นั้น กินเวลาถึง 10 ปี

เป็นระยะเวลาใกล้เคียงของการกลับมาระบาดซ้ำของซาร์สและเมอร์ส ต้นกำเนิดของไวรัสโคโรนาขณะนี้

น่าจะเป็นไปตามคำทำนายของนางซิลเวีย บราวน์ ผู้มีทิพยญาณเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า และโยคีเด็กอินเดีย

การที่ไวรัสสงบและคนไข้หายจากอาการป่วยนั้น ด้านหนึ่งเป็นเพราะมีการกำจัดไวรัสจากเซลล์พิฆาต T-cell ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแอนติบอดี้ และจากการลดจำนวนไวรัส

จำนวนและปริมาณที่ไวรัสโควิด-19 จะเข้าสู่ร่างกายคนจนเข้าข่ายติดเชื้อนั้น อยู่ที่ 1,000 อนุภาค (particle)

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ อธิบายวิถีการติดเชื้อจากการแบ่งปันลมหายใจสู่กันดังนี้

"โอกาสที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ต้องหายใจเชื้อไวรัสอย่างน้อยจำนวนหนึ่ง เช่น 1,000 อนุภาคของไวรัส ไม่ใช่แค่ 1 อนุภาค ปกติคนป่วย 1 คนจะแพร่เชื้อไวรัสออกมาในอากาศเวลาหายใจประมาณ 20 อนุภาคต่อนาที เวลาพูด 200 อนุภาคต่อนาที เวลาไอ จามอาจปล่อยเชื้อมากถึง 200 ล้านอนุภาคต่อครั้ง"

ถ้าคนแพร่เชื้อใส่หน้ากากอนามัย อยู่ในห้างที่โอ่โถง พื้นที่กว้าง ระบบถ่ายเทอากาศดี เว้นระยะห่าง และเราเองก็ใส่หน้ากากอนามัย เราอาจหายใจเชื้อไวรัสในอากาศจำนวนน้อยมากเช่น 8 อนุภาคต่อนาที

เพราะฉะนั้นเราต้องอยู่ในห้างนาน 125 นาทีถึงจะรับปริมาณเชื้อเพียงพอทำให้เราติดเชื้อได้ ถ้าลูกค้าทุกคนรีบออกจากห้างภายใน 2 ชั่วโมง โอกาสแพร่เชื้อ และรับเชื้อทำให้ป่วยก็จะน้อยลงมาก และเป็นการลดความแออัด ทำให้สามารถเว้นระยะห่างในห้างสรรพสินค้าได้อีกด้วย ”

สำหรับกลางแจ้ง ถ้าเจอแดดจัดๆ เชื้อนี้จะตายภายในไม่เกิน 3 นาที

เพราะแสงแดดมีรังสี UV1-UV2 ที่ฆ่าเชื้อนี้ได้ถึง 95%

( UV3 เข้มข้นที่สุดขนาดทำเนื้อหนังคนไหม้เกรียมในเสี้ยววินาทีมาไม่ถึงโลกเพราะมวลสารห่อหุ้มโลกดักกรองเอาไว้)

ที่รมว.อนุทิน ชาญวีรกูลไปกินข้าวชายทะเลกับบรรดาหมอๆแล้วโดนถล่มเละ ทั้งเรื่องการทิ้้งระยะห่างและเรื่องสวมหน้ากาก(อาจถอดตอนกินข้าว) นั้น

หากนำคำอธิบายของคุณหมอมนูญมาเทียบ ก็คงจะมีข้อแก้ตัวได้

แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีเรื่องนี้ ก็ยังมีอีกหลายเรื่อง หลายโอกาส ที่จะถูกเล่นงาน เพราะถูกจองกฐินอยู่เงียบๆไว้แล้ว

ยามใดที่การ์ดตก ก็ต้องเจอหมัดสวนแบบนี้แหละ




June 10, 2020 at 12:10AM
https://ift.tt/2Yi9kDE

เปิดเมือง normal ได้เมื่อใด - สยามรัฐ

https://ift.tt/2REt1Df


Bagikan Berita Ini

0 Response to "เปิดเมือง normal ได้เมื่อใด - สยามรัฐ"

Post a Comment

Powered by Blogger.