Search

ติดตามการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล - โพสต์ทูเดย์

jogja-grade.blogspot.com

ติดตามการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล

วันที่ 24 ส.ค. 2563 เวลา 07:17 น.

คอลัมน์ มันนี่วีก (Money week)โดย...สรรค์ อรรถรังสรรค์, มนัสวิน ฐิติสมบูรณ์ สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย

สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทยประเมินว่าเงินบาทผันผวนสูงต่อเนื่อง โดยอยู่ในกรอบ 31.20-31.70 นักลงทุนรอติดตามการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮลระหว่างวันที่ 27-28 สิงหาคม โดยนักลงทุนให้ความสนใจต่อความเห็นของประธานเฟด นายเจอโรม โพเวล ต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินท่ามกลางความไม่แน่นอนของวิกฤติโควิด-19 และความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจจากความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน ด้านนโยบายการเงินธนาคารกลางเกาหลีใต้มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมสัปดาห์นี้ ด้านตัวเลขเศรษฐกิจ นักลงทุนรอติดตามการรายงานตัวเลขจีดีพี (ปรับปรุง) ไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐฯ และเยอรมนี รวมถึงตัวเลขกำไรของบริษัทภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ไทยมีกำหนดรายงานตัวเลขการส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคม

ภาพรวมตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.10 -31.55 เงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงในสัปดาห์นี้ตามปัจจัยในประเทศเป็นสำคัญ โดยเงินบาทเปิดตลาดช่วงต้นสัปดาห์ที่ 31.10 และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังจากรายงานจีดีพีไทยในไตรมาสที่ 2 หดตัว 12.2%YoY โดยเศรษฐกิจทุกภาคส่วนหดตัวสูงเนื่องจากผลของการระบาดของไวรัสและการปิดเมือง ยกเว้นการใช้จ่ายโดยเฉพาะการลงทุนของรัฐบาล อีกทั้ง สศช. ยังลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงมาที่ค่ากลาง -7.5% จากประมาณการครั้งก่อนที่ -5.5% ขณะที่นักลงทุนยังคงกังวลต่อความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีนหลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำบริษัทพันธมิตรของหัวเว่ยอีก 38 แห่งและกำหนดให้ผู้ผลิตชิพที่ใช้เทคโนโลยีของสหรัฐฯ ทั่วโลกต้องขอใบอนุญาตจากสหรัฐฯ ก่อนที่จะทำงานให้กับหัวเว่ย

ทั้งนี้ รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) ชี้ว่าคณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัวหลังจากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง ซึ่งสอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจของนานาประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ดี เงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องในช่วงกลางสัปดาห์จากความกังวลต่อโอกาสการระบาดของไวรัสในไทยเป็นรอบที่ 2 หลังจากที่พบกรณีการติดเชื้อรายใหม่ 2 รายซึ่งได้กักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดไว้ครบ 14 วันแล้ว ทั้งนี้ เงินบาทปิดตลาดที่ 31.55 (วันศุกร์ เวลา 17.00 น.)

ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประเด็นสำคัญอยู่ที่รายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดที่ระบุว่าการระบาดของไวรัสจะกดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ประเด็นของการหารือถึงรายละเอียดของหลักเกณฑ์ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะข้างหน้ายังไม่มีการพูดถึง และเราเชื่อว่าเฟดจะดำเนินการผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างเต็มกำลังในระยะต่อไป ขณะที่มาตรการ Yield Curve Control ที่มีการพูดถึงก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่ายังคงไม่เกิดขึ้น เนื่องจากคณะกรรมการส่วนใหญ่มองว่าการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรน่าจะให้ประโยชน์ไม่มากนักภายใต้สภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีประเด็นความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง โดยสหรัฐฯ จำกัดช่องทางของหัวเว่ยในการเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐฯ มากขึ้น ส่วนทางด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมา มีตัวเลขยอดขอรับสวัสดิการผู้ว่างงานเบื้องต้นของสหรัฐฯ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 สิงหาคม 63 กลับมาเกิน 1 ล้านคนอีกครั้ง โดยตัวเลขยอดขอรับสวัสดิการผู้ว่างงานเบื้องต้นอยู่ที่ 1.106 ล้านคน เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 971,000 คน และสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 920,000 คน ด้วยปัจจัยข้างต้นนี้ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเศรษฐกิจหลักปรับตัวลดลงเล็กน้อย

ขณะที่ประเด็นภายในประเทศ มีการประกาศจีดีพีไทยไตรมาสที่ 2 ปี 2563 หดตัวที่ -12.2%YoY น้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ -13.0%YoY โดยเศรษฐกิจทุกภาคส่วนหดตัวสูงเนื่องจากผลของการระบาดของไวรัสและการปิดเมือง ทั้งนี้ สศช. ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงมา โดยมีค่ากลางอยู่ที่ -7.5% จากประมาณการครั้งก่อน -5.5% นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (กนง.) โดยคณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะทยอยฟื้นตัวหลังจากการผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง ซึ่งสอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจของนานาประเทศทั่วโลก ทั้งนี้คณะกรรมการฯ มองว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2563 มีแนวโน้มติดลบ แต่จะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปี 2564 ซึ่งปัจจัยข้างต้นใกล้เคียงกับที่ตลาดได้ประเมินไว้อยู่แล้ว ทำให้การเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย แทบไม่เปลี่ยนแปลงไปจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดย ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2563 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยรุ่นอายุ 1, 2, 3, 5, 7 และ 10ปี อยู่ที่ 0.50% 0.49% 0.59% 0.86% 1.08% และ 1.38% ตามลำดับ

กระแสเงินทุนต่างชาติในสัปดาห์ที่ผ่านมาไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิประมาณ 3,173 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น 545 ล้านบาท ขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว 1,503 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 1,125 ล้านบาท




August 24, 2020 at 07:22AM
https://ift.tt/2CWcwOE

ติดตามการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล - โพสต์ทูเดย์

https://ift.tt/2REt1Df


Bagikan Berita Ini

0 Response to "ติดตามการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล - โพสต์ทูเดย์"

Post a Comment

Powered by Blogger.